วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เครือจักรภพบริเตน ดินเเดนพระอาทิตย์ไม่ตกดิน

             บริเตน  หรือว่าประเทศอังกฤษ  เป็นประเทศเเรกในโลกที่เป็นประเทศอุตสาหกรรม  เป็นมหาอำนาจของโลกเป็นเวลากว่า100ปี  เเละยังมีอาณานิคมทั่วโลกจนพระอาทิตย์ส่องไปที่ไหนก็ตามก็จะมีดินเเดนของบริเตนอยู่ด้วย  เป็นที่มาของคำว่าดินเเดนพระอาทิตย์ไม่ตกดิน

เเละมีกำลังทหารในยุคปีศตวรรษที่18-20ตอนต้น  มากที่สุดของโลกด้วย
โดยมีทหารประมาณ24ล้านคน
มีประชากร450ล้านคน  โดยประชากรส่วนใหญ่มากจากอินเดียถึง400ล้านคน
ต่อมาอาณานิคมที่อเมริกาเเละอินเดียประกาศอิสรภาพ  ทำให้ปัจจุบันเนื้อที่น้อยลงมาก  เเต่ว่าอย่างไรก็ตามมีประเทศในเครือจักรภพอยู่53ประเทศ  มีประชากร1000ล้านคน

การสังหารหมู่ที่นานกิง

  ในวันที่13 ธันวาคม  ค.ศ.1937  กองทัพญี่ปุ่นได้บุกเข้ายึดเมืองนานกิงของจีนไว้ซึ่งกับสงครามโลกครั้งที่2พอดี
                เนื่องจากเชลยศึกชาวจีนมีมากทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถหาอาหารได้เพียงพอจึงมีคำสั่งในที่ประชุมให้เเบ่งกลุ่มเชลยศึกที่เป็นผู้ชายส่วนใหญ่  เเบ่งเป็นกลุ่มละประมาณ50คนเเล้ว  หลอกให้เข้ามอบตัว  เเล้วพาไปฆ่าทิ้งตามจุดต่างๆของเมือง
                 18 ธันวาคม  String Gorge Massacreทหารญี่ปุ่นใช้เวลาในช่วงเช้าเพื่อมัดเชลยศึกเหล่านั้นเข้าด้วยกันเป็นจำนวนหลายแถว และเปิดฉากยิงใส่ด้วย ปืนกล เชลยศึกที่ถูกมัดอยู่ไม่สามารถหนีได้ ทำได้เพียงกรีดร้องเท่านั้น เชลยศึกราว 57,500 คนถูกสังหาร
       เชลยศึกบางส่วน ถูกทหารญี่ปุ่นมัดเข้าด้วยกัน และให้เชลยศึกเหล่านั้นเหยียบ กับระเบิด เพื่อสังหารหมู่ บ้างก็มัดเชลยเหล่านั้นเข้าด้วยกันแล้วจุดไฟเผา
                  การทรมาณเชลยศึก  ทหารญี่ปุ่นทำการทารุณกับชาวนานกิงเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้เช่น ฝังทั้งเป็น โดยจะขุดหลุม และฝังเชลยให้โผล่ขึ้นมาแค่เพียงหน้าอกหรือแค่คอ เพื่อจะได้รับทุกข์ทรมานต่างอีกหลายอย่าง เช่น ฉีกเป็นชิ้นๆ ทหารญี่ปุ่นคว้านตับไตไส้พุง ตัดหัวหรือสับเหยื่อเป็นชิ้นๆแล้วโยนให้สุนัขกิน ตอกเชลยไว้กับแผ่นไม้แล้วให้รถถังแล่นทับ ใช้เป็นที่ซ้อมเสียบดาบปลายปืน ควักลูกตา หั่นจมูกและใบหูก่อนเผาทั้งเป็น
                   การข่มขืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
              ชาวญี่ปุ่นได้ทำการข่มขืนชาวจีนอย่างไม่เลือกหน้าตั้งเเต่เด็กทารกจนไปถึงคนเเก่อายุ80  มากจนบอกไม่ได้ว่ากี่คนเเต่มีการประมาณออกมาว่า20000-80000คน  ข่มขืนอย่างไม่เลือกที่เช่น  กลางถนน  วัด  โรงเรียนโดยผู้หญิงเเต่ละคนต้องโดนรุมโทรมไม่ต่ำกว่า15คน  เเม้เเต่คนเเก่ยังหนีไม่พ้น
               เด็กสาวถ้ายังอยู่ในบ้านก็เสี่ยงต่อการถูกข่มขืนต่อหน้าสมาชิกในครอบครัว... ซึ่งมีไม่น้อยที่ลูกชายถูกบังคับให้ข่มขืนแม่ พ่อถูกบังคับให้ข่มขืนลูกสาว... แต่หากออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังเขตปลอดภัย ก็เสี่ยงต่อการถูกจับได้ กลางทาง 

....กระนั้นกองทัพญี่ปุ่นก็ยังสร้างเรื่องโกหกว่า มีตลาดที่พวกแม่บ้านสามารถ นำไก่และเป็ดมาแลกกับข้าวสารและแป้งปรุงอาหารได้ แต่เมื่อพวกผู้หญิง ไปถึงที่นั่นพร้อมด้วยข้าวของที่จะแลก พวกเธอกลับได้พบกับทหารเป็นฝูง 
คอยทีอยู่ ผู้หญิงที่นานกิงถูกข่มขืนไม่เลือกเวลาและสถานที่ หนึ่งในสามเกิดขึ้นตอน กลางวันแสกๆ
               "พวกที่รอดมาได้เล่าว่า พวกทหารจับผู้หญิงถ่างขาออกแล้วก็ข่มขืนพวกเธอ ทั้งๆ กลางแจ้ง ที่กลางถนน และต่อหน้าฝูงชนที่มุงดู" ถึงแก่เฒ่าก็ไม่เว้น "ทหารญี่ปุ่นที่ข่มขืนหญิงวัยหกสิบคนหนึ่งออกคำสั่ง ให้นางใช้ปากทำความสะอาดอวัยวะเพศให้ และเมื่อยายวัย 62 อีกคน ออกปากว่านางแก่เกินกว่าจะทำเรื่องอย่างนั้นได้ พวกเขาก็ตอกท่อนไม้เข้า ไปในตัวนาง ยายวัยแปดสิบจำนวนมากถูกข่มขืนจนตายคาที่" 

...พยานชาวจีนหลายรายเล่าว่า ทหารข่มขืนเด็กผู้หญิงที่กลางถนน เสร็จแล้ว ก็ใช้ดาบฟันร่างของพวกแกขาดเป็นสองท่อน นอกจากนั้นยังมีบางรายที่ ถูกแล่ช่องคลอดด้วยดาบของผู้ชำเราเอง กับผู้หญิงท้องหลังจากการเรียงคิวแล้ว "บางทีทหารก็คว้านผ่าหน้าท้อง ของหญิงที่พวกตนข่มขืน แล้วเขี่ยเอาลูกอ่อนออกมาดูเล่น!" 

....นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายๆ คนที่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้ กับเตียง หรือเสาบ้าน ในสภาพเปลือยเปล่าในฐานะเป็นอุปกรณ์สนองกามถาวร 

...."ในระหว่างการข่มขืนมโหฬารที่เกิดขึ้นในตัวเมือง บ่อยครั้งที่ทหารญี่ปุ่น ฆ่าเด็กและทารกทิ้ง เพียงเพราะพวกแเข้ามายุ่มย่ามขวางทาง พยานที่เห็น เหตุการณ์เล่าถึงภาพเด็กๆ หรือทารกที่ถูกเอาผ้ายัดปาก หรือไม่ก็ถูกเสียบตาย 
คาดาบปลายปืน เพราะพวกแกเกิดร้องขึ้นมาขณะแม่กำลังถูกข่มขืน" และเมื่อเบื่อหน่ายกับกามที่สวาปามเข้าไปจนเกินอิ่มแล้ว วิธีการหฤหรรษ์อันสุดเหี้ยมอย่างหนึ่ง คือ "การเสียบช่องคลอด"  

.....สองขาของซากศพพวกผู้หญิงที่พบตามท้องถนนในเมืองนานกิงถ่างแยก มีสิ่งของต่างๆ ทิ่มแทงค้างอยู่ในอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็นท่อนไม้ กิ่งไม้ หรือ กอหญ้า ทหารนายหนึ่งยัดขวดเบียร์เข้าไปในช่องคลอดที่เขาเพิ่งเสร็จออกมา 
จากนั้นก็ยิงเจ้าของช่องคลอดรายนั้นทิ้ง

          "ประวัติศาสตร์ของสงครามสอนไว้ว่า  สงครามคือความขัดเเย้งด้านอุดมการณ์จนนำไปสู่การใช้กำลังทหาร  เเต่ประวัติศาสตร์ยังสอนอีกว่าในอนาคตถ้าเกิดความขัดเเย้งเเบบนี้อีก  เราจะทำอย่างไรไม่ให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยเดิม  เราควรเจรจาทางทูตมากกว่ากำลังทหาร"


ขอไว้อาลัยเเด่ผู้ที่เสียชีวิตในการสังหารหมู่ที่นานกิงเเม้กาลเวลาจะผ่านมานานถึง 76 ปี ก็ตาม